
การบริหารจัดการมลพิษ แสง เสียงและความร้อน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้ความสำคัญในด้านการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อมและติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นบริษัทฯ ตระหนักว่ากิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดจากการดำเนินการ ทั้งจากกระบวนการผลิต การใช้ทรัพยากร ซึ่งพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ การใช้พลังงาน ก่อให้เกิดขยะ ของเหลือทิ้ง และผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบให้ลูกค้า ตลอดจนการขนส่งถึงลูกค้าและคำนึงถึงพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทำงาน จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการบริหารสิ่งที่เกิดขึ้นและปล่อยออกจากพื้นที่บริษัทฯ นอกจากนี้ ยังตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและระบบนิเวศท้องถิ่น รวมถึงอิทธิพลที่สภาพแวดล้อม มีต่อการใช้ชีวิตของทุกคนในสังคมเพื่อให้้มั่นใจได้ว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นโยบายสิ่งแวดล้อม
บริษัท เอ.เจ. พลาสท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายฟิล์มพลาสติก ให้ความสำคัญกับการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญและคำนึงถึงด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ ให้การสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลักดันการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสู่ท้องตลาด และ ส่งเสริมให้เกิดแรงผลักดันด้านสังคมเพื่อให้เกิดการใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์ที่กล่าวถึงในข้างต้น บริษัทฯ จึงแสดงความมุ่งมั่นดังต่อไปนี้:
นโยบายสิ่งแวดล้อม ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
เป้าหมายด้านมลพิษ แสง เสียงและความร้อน
บริษัทฯ มีการกำหนดเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว สอดคล้องตามนโยบายสิ่งแวดล้อม ซึ่งครอบคลุมการปฏิบัติตามข้อกำหนด กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เพื่อควบคุมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นไปในทิศทางเดียวกับประเด็นสาระสำคัญของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การบริหารจัดการด้านขยะและของเสีย ด้านพลังงาน การบริหารจัดการน้ำและการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่บริษัทฯ และกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียให้ความสำคัญ
เป้าหมายด้านมลพิษทางอากาศ
สอดคล้องตามเป้าหมายของระบบมาตรฐาน ISO 14001:2015ของบริษัทฯ โดยกำหนดให้มีการตรวจวัดค่าฝุ่นละออง (Particulate Matter) คาร์บอนมอนออกไซด์ (Carbon Monoxide) ก๊าซไนโตรเจน (Nitrogen Dioxide) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfur Dioxide) ในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติงาน
เป้าหมายแสง เสียง ความร้อนและสารเคมี
การบริหารจัดการด้านมลพิษ แสง เสียงและความร้อน
การบริหารจัดการด้านมลพิษทางอากาศ
บริษัทฯ บริหารจัดการด้านมลพิษทางอากาศ โดยมุ่งเน้นการเฝ้าระวังคุณภาพอากาศในพื้นที่และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณภาพอากาศที่ได้ตรวจวัดไปนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องกำหนดค่าปริมาณสารเจือปนในอากาศที่ระบายออกจากโรงงาน พ.ศ.2549 โดยบริษัทฯ มีการตรวจวัดมลพิษในพื้นที่โรงงาน ได้แก่ ค่าฝุ่นละออง (Particulate Matter) คาร์บอนมอนออกไซด์ (Carbon Monoxide) ก๊าซไนโตรเจน (Nitrogen Dioxide) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfur Dioxide) เป็นต้น
การบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมในการทำงาน
การควบคุมสภาวะแวดล้อมและความปลอดภัยในการทำงานให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ระดับความร้อน แสงสว่าง เสียง หรือสารเคมี ในพื้นที่ปฏิบัติงาน รวมทั้งมีการจัดการรองรับในภาวะฉุกเฉินอย่างครบถ้วน รวมถึง การซ้อมแผนฉุกเฉินเพื่อป้องกันและลดผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- การบริหารจัดการแสง
บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายในการควบคุมคุณภาพแสงสว่างในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ ตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง 2561 รวมทั้งดำเนินแก้ไขและปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
- การบริหารจัดการเสียง
บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายในการควบคุมค่าระดับเสียงในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่างและเสียง พ.ศ. 2559 และประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐาน ระดับเสียงที่ยอมให้ลูกจ้างได้รับเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทํางานในแต่ละวัน พ.ศ. 2561 รวมทั้งมีการจัดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้กับพนักงานและจัดอบรมให้ทราบถึงอันตรายจากการได้รับเสียงดัง
-การบริหารจัดการความร้อน
บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายในการควบคุมระดับความร้อนในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่างและเสียง พ.ศ. 2559 โดยแบ่งตามลักษณะงาน คือ งานเบา งานปานกลาง และงานหนัก อีกทั้งมีการจัดชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้กับพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่
- การบริหารจัดการสารเคมี
บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายในการควบคุมปริมาณสารเคมีในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ ตามประกาศกรมสัวดิการคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ขีดจำกัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2560 มาตรฐานสถาบันความปลอดภัยและอนามัยในการทำงานแห่งชาติ (NIOSH) และ มาตรฐานสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (OSHA)อีกทั้งมีการจัดชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้กับพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่
ผลการดำเนินงานด้านมลมลพิษ แสง เสียงและความร้อน
ผลการดำเนินงานด้านมลพิษทางอากาศ
บริษัทฯ ได้ดำเนินการเน้นการผลิตที่มีคุณภาพควบคู่กับการตระหนักถึงการประเมินการสัมผัสสภาพแวดล้อมในการทำงานและการเฝ้าระวังการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม จึงได้มีการตรวจวัดและวิเคราะห์คุณภาพสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด รวมทั้งพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพเกินกว่ากฎหมายกำหนด
บริษัทฯ ตรวจวัดและวิเคราะห์คุณภาพอากาศจากปล่องระบายอากาศ โดยมีรายการตรวจวัด ได้แก่ ฝุ่นละอองรวม (Total Suspended Particulate) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfur Dioxide) ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน (Oxide of Nitrogen) และ ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ (Carbon Monoxide) โดยแสดงผลการตรวจวิเคราะห์ ดังนี้
ตารางแสดงการตรวจวัดวิเคราะห์คุณภาพ ประจำปีพ.ศ. 2567
ผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการแสง
บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจวัดคุณภาพแสงสว่างในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ โดยมีแบ่งตามการใช้สายตาคือ งานหยาบ งานละเอียดเล็กน้อยและงานละเอียดสูงเท่ากับหรือมากกว่า 200-300 ลักซ์ 400-500 ลักซ์และ 800-1200 ลักซ์ ตามลำดับตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง พ.ศ. 2561 โดยสามารถแสดงผลการตรวจวิเคราะห์ได้ดังนี้
ตารางแสดงการตรวจวัดคุณภาพระดับความเข้มแสงประจำปีพ.ศ. 2567
โดยปีพ.ศ. 2567 พบว่าคุณภาพแสงสว่างบางพื้นที่มีค่าไม่สอดคล้องตามมาตรฐานกำหนด ซึ่งพบว่าประเภทงานละเอียดเล็กน้อยและงานละเอียดเล็กสูงมีทั้งหมด 31 และ 3 จุด ตามลำดับ และค่าความสว่างเฉลี่ยสูงสุดในพื้นที่ประเภทงานละเอียดเล็กน้อยและงานละเอียดสูง เท่ากับ 353.55 และ 522.33 ลักซ์ ที่ไม่สอดคล้องตามมาตรฐานฯ บริษัทฯ จึงดำเนินการเพิ่มจำนวนหลอดไฟจำนวน 345 ดวง และทำความสะอาดแหล่งกำเนิดแสงสว่างในพื้นที่ฝ่ายผลิตและพื้นที่สำนักงาน เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรฐานฯ
ผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการเสียง
บริษัทฯ ดำเนินการตรวจวัดค่าระดับความดังเสียงในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ โดยค่าระดับเสียงเฉลี่ย 8 ชั่วโมงไม่เกิน 85 เดซิเบล และค่าระดับเสียงสูงสุด ไม่เกิน 115 เดซิเบลเอ ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่างและเสียง พ.ศ. 2559 และประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐาน ระดับเสียงที่ยอมให้ลูกจ้างได้รับเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทํางานในแต่ละวัน พ.ศ. 2561 โดยสามารถแสดงผลการตรวจวิเคราะห์ได้ดังนี้

ตารางแสดงการตรวจวัดคุณภาพระดับความดังเสียง ประจำปีพ.ศ. 2567
โดยปีพ.ศ. 2567 พบว่าคุณภาพเสียงสอดคล้องตามมาตรฐานเกณฑ์ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยตรวจวัดค่าระดับเสียงเฉลี่ยทั้งหมด 22 จุด และมีค่าระดับความดังเสียงเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 83.55 เดซิเบลเอ เพื่อให้มีการควบคุมคุณภาพเสียงให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงดำเนินการบริหารจัดการ รวมทั้งควบคุมคุณภาพเสียงอย่างเข้มงวด ด้วยโครงการอนุรักษ์การได้ยินและควบคุมเสียง ดังนี้
(1) กำหนดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่จำเป็นในการสวมใส่ก่อนเข้าสู่ส่วนกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงระดับเสียงสูง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันเสียง เช่น ที่อุดหู (Earplug) ช่วยลดระดับเสียงและป้องกันอันตรายที่อาจส่งผลกระทบต่อการได้ยินของพนักงาน
(2) ปลูกฝังวัฒนธรรมการคำนึงถึงการควบคุมคุณภาพเสียงและอันตรายที่อาจเกิดจากเสียงดังให้แก่พนักงานทุกระดับ โดยจัดทำป้ายเตือนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่จำเป็นในการสวมใส่ก่อนเข้าสู่ส่วนกระบวนการผลิต และได้รับการอบรมเกี่ยวกับอันตรายจากเสียงดัง และวิธีปฏิบัติงานและการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงอย่างเหมาะสม
ผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการความร้อน
บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจวัดระดับความร้อนในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่างและเสียง พ.ศ. 2559 โดยแบ่งตามลักษณะงาน คือ งานเบา งานปานกลางและงานหนัก มีค่าเท่ากับ 0-200 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมง 201-350 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมงและมากกว่า 350 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมง ตามลำดับ โดยสามารถแสดงผลการตรวจวิเคราะห์ได้ดังนี้
ตารางแสดงการตรวจวัดคุณภาพระดับความร้อน ประจำปีพ.ศ. 2567
โดย ปีพ.ศ. 2567 พบว่าค่าระดับความร้อนตามประเภทงานเบา งานปานกลางและงานหนักเท่ากับ 4 จุด 15 จุดและ 1 จุด และมีค่าระดับความร้อนเฉลี่ยในงานประเภทงานเบา งานปานกลางและงานหนักเท่ากับ 160.00 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมง 245.77 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมงและ 353.00 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมง และอุณหภูมิเฉลี่ยในงานเบา งานปานกลางและงานหนักเท่ากับ 26.30 องศาเซลเซียส 31.01 องศาเซลเซียสและ 35.90 องศาเซลเซียส ตามลำดับ ซึ่งพบว่าอุณหภูมิในงานหนักไม่สอดคล้องตามมาตรฐาน บริษัทฯ จึงดำเนินการปรับปรุงสภาวะการทำงานทางด้านวิศวกรรม เพื่อควบคุมระดับความร้อนให้เป็นไปตามมาตรฐาน หรือลดภาระงานของพนักงาน และจัดให้มีอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตลอดระยะเวลาการทำงาน พร้อมจัดอบรมให้ความรู้ในการใช้อุปกรณ์ดังกล่าว ตามความเหมาะสม
ผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการสารเคมี
บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจวัดระดับสารเคมีในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ ตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ขีดจำกัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2560 มาตรฐานสถาบันความปลอดภัยและอนามัยในการทำงานแห่งชาติ (NIOSH) และ มาตรฐานสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (OSHA) โดยผลการตรวจวัดดังนี้
ตารางแสดงการตรวจวัดคุณภาพระดับสารเคมี ประจำปีพ.ศ. 2567
2.ข้อมูลเฉพาะพื้นที่โรงงานแหลมฉบัง
3.มาตรฐาน1 คือ ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ขีดจำกัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2560
4.มาตรฐาน2 คือ มาตรฐานสถาบันความปลอดภัยและอนามัยในการทำงานแห่งชาติ (NIOSH)
5.มาตรฐาน3 คือ มาตรฐานสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (OSHA)
ปีพ.ศ. 2567 พบว่าระดับสารเคมีทั้ง 7 ชนิด มีค่าสอดคล้องตามมาตรฐานของประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ขีดจำกัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2560 มาตรฐานสถาบันความปลอดภัยและอนามัยในการทำงานแห่งชาติ (NIOSH) และ มาตรฐานสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (OSHA)จากผลการตรวจวัดบริษัทฯ มีการจัดชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้กับพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในบริเวณจุดตรวจวัด
โครงการหรือกิจกรรมด้านจัดการมลพิษ แสง เสียงและความร้อน
จากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ พบว่า ค่าอยู่ในเกณฑ์ปกติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องตามกฏหมายในด้านคุณภาพอากาศ เสียง และสารเคมี ยกเว้นคุณภาพแสงสว่างและความร้อนที่ยังไม่สอดคล้องตามข้อกำหนดทีเกี่ยวข้องตามกฎหมาย โดยบริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขคุณภาพแสงสว่างและความร้อนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย อีกทั้ง บริษัทฯ ยังเปิดรับเบาะแสและข้อร้องเรียนด้านสิ่งแวดล้อมให้กับผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง ในปีพ.ศ. 2567 พบว่าไม่มีข้อร้องเรียนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านมลพิษทางอากาศและสภาวะแวดล้อมในการทำงาน และบริษัทฯ จะมุ่งเน้นในการผลิตฟิล์มพลาสติกที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
1.โครงการควบคุุมมลพิษอากาศที่ปลายปล่องและการสำรวจจุดที่ต้องมีการตรวจวัดมลพิษอากาศเพิ่มเติม
บริษัทฯ ดำเนินการใช้ตัวกรองมลพิษอากาศที่ปลายปล่อง ซึ่งสามารถลดการปล่อยมลพิษอากาศตามเป้าหมายที่กำหนดและดำเนินการพิจารณาสำรวจจุดที่จะเกิดมลพิษภายในโรงงานร่วมกับบริษัทรับตรวจวัดด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อครอบคลุมจุดที่คาดว่าจะมีการปล่อยมลพิษอากาศและมีการตรวจสอบซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดผลกระทบต่อพนักงานหรือสภาพแวดล้อมรอบ ๆและชุมชนใกล้เคียงกับบริษัท

2.โครงการอนุรักษ์การได้ยิน
บริษัทฯ ได้ดำเนินการติดป้ายจุดที่มีเสียงดัง ซึ่งต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ขณะทำงานตลอดเวลาในจุดที่มีเสียงดัง และจัดทำสื่อให้ความรู้เกี่ยวเสียงดังและการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจได้รับจากการสัมผัสเสียงดังขณะปฏิบัติงานรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อ อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
3.โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพอุปกรณ์ไฟฟ้า
บริษัทฯ ดำเนินการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟฟ้าประเภท LED ภายในพื้นที่โรงงานแหลมฉบัง รายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อ การบริหารจัดการพลังงาน