
การบริหารจัดการพลังงาน
พลังงานเป็นทรัพยากรที่สําคัญสําหรับการดำเนินธุกิจบริษัทฯ จึงตระหนักดีว่าการใช้พลังงานในการดำเนินงานถือเป็นส่วนหนึ่งของผลกระทบที่สำคัญที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงมีการบริหารจัดการพลังงานตามนโยบายอนุรักษ์พลังงานและติดตามความเคลื่อนไหวของการมีส่วนร่วมของประเทศในการลดก๊าซเรือนกระจกและการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Nationally Determined Contribution (NDC) ซึ่งยื่นต่อสำนักงานเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) ที่มุ่งเป้าให้ประเทศลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 30-40 จากกรณีปกติ ภายในปีพ.ศ. 2573 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นส่วนหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมที่มีส่วนช่วยให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตามแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ในสาขาพลังงาน แนวคิดในการจัดทำโครงการลดการใช้พลังงานของบริษัทฯ จะเป็นไปเพื่อการสนับสนุนแผนอนุรักษ์พลังงาน ปีพ.ศ. 2561-2580 ซึ่งมีเป้าหมายในการลดความเข้มการใช้พลังงานลดร้อยละ 30 ภายในปีพ.ศ. 2580 และ แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2561-2580 ซึ่งมุ่งการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกในรูปของพลังงานไฟฟ้า ความร้อน และเชื้อเพลิงชีวภาพ ต่อการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายที่ร้อยละ 30 ในปีพ.ศ. 2580 เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯจึงตระหนักถึงความท้าทายของการบริหารจัดการพลังงาน ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงได้ประเมินความเสี่ยงและผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการใช้พลังงาน และร่วมมือกับพนักงานทุกระดับในการมีส่วนร่วมในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย NET ZERO ของประเทศไทย ภายในปี พ.ศ. 2608 โดยมีการบริหารจัดการตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2535 (ฉบับแก้ไข พ.ศ.2550)
เป้าหมายการบริหารจัดการพลังงาน
การบริหารจัดการพลังงาน
การใช้พลังงานส่วนใหญ่จะอยู่ที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และโรงงานนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 ณ พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่ในขอบข่ายโรงงานควบคุมตามพระราชกฤษฎีกากำหนดโรงงานควบคุม พ.ศ. 2540 เนื่องจากเป็นโรงงานที่ติดตั้งหม้อแปลงขนาด 1,500 กิโลโวลต์-แอมแปร์ จำนวน 1 ตัว หม้อแปลงขนาด 2,000 กิโลโวลต์-แอมแปร์ จำนวน 6 ตัว หม้อแปลงขนาด 2,500 กิโลโวลต์-แอมแปร์ จำนวน 8 ตัว หม้อแปลงขนาด 3,000 กิโลโวลต์-แอมแปร์ จำนวน 15 ตัว และหม้อแปลงขนาด 25,500 กิโลโวลต์-แอมแปร์ จำนวน 1 ตัว สรุปมีหม้อแปลงไฟฟ้าติดตั้ง จำนวน 103,500 กิโลโวลต์-แอมแปร์
บริษัทฯ แต่งตั้งคณะทำงานด้านการจัดการพลังงาน ซึ่งมีคุณสมบัติและหน้าที่ความรับผิดชอบเป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติ หน้าที่และจำนวนของผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน พ.ศ. 2552 โดยมีหน้าที่จัดการพลังงาน ดังนี้
1.จัดทำระบบการจัดการพลังงาน
2.รายงานการจัดการพลังงาน
3.ตรวจสอบและรับรองระบบการจัดการพลังงาน
ค่าการใช้พลังงานจำเพาะต่อหน่วยการผลิต
บริษัทฯ กำหนดค่าการใช้พลังงานจำเพาะฐาน (Specific Energy Consumption: SEC) โดยมีการเปรียบเทียบอัตราส่วนของปริมาณพลังงานไฟฟ้าและปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังและปิ่นทอง 5 ต่อปริมาณการผลิตฟิล์มพลาติกในรอบปี โดยมีวิธีการคำนวณ ดังนี้
ค่าการใช้พลังงานจำเพาะ (SEC)
ตารางแสดงค่าการใช้พลังงานจำเพาะ
มาตรการลดการใช้พลังงานและการอนุรักษ์พลังงาน
บริษัทฯ มุ่งเน้นการลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอซซิลที่เป็นแหล่งพลังงานอัดับต้นๆ ของบริษัทฯ เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอซซิลส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ส่งให้ผลให้เกิดภาวะโลกเดือด ดังนั้นจึงสนับสนุนพลังงานทางเลือกหรือพลังงานหมุนเวียน ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและนโยบายอนุรักษ์พลังงาน เพื่อมุ่งสู่ NET ZERO ภายในปีพ.ศ. 2608
ผลการดำเนินงาน
โดยจะดำเนินการรายงานต่อกรมอนุรักษ์พลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงานเป็นประจำทุกปี ในปีพ.ศ. 2567 การใช้พลังงานของบริษัทฯ สามารถแสดงได้ดังนี้
ตารางแสดงปริมาณการใช้พลังงานของโรงงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ประจำปีพ.ศ. 2567
ตารางแสดงปริมาณการใช้พลังงานของโรงงานนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 ประจำปีพ.ศ. 2567
ตารางแสดงสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าโรงงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง

ในปีพ.ศ. 2567 บริษัทฯได้กำหนดเป้าหมายและแผนการอนุรักษ์พลังงาน จำนวนร้อยละ 0.02 จากปริมาณการใช้พลังงานเดิม ในการดำเนินงานลดการใช้พลังงานของปีพ.ศ. 2567 บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายการลดการใช้พลังงานเป็นที่เรียบร้อย โดยสามารถลดการใช้พลังงานได้ จำนวนร้อยละ 0.02 ผลประหยัดดังกล่าวมาจากโครงการเปลี่ยนหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ 28W เป็นหลอด LED 16W สำหรับโครงการลดการใช้พลังงานในรอบปีพ.ศ. 2567 มีรายละเอียดดังหัวข้อโครงการส่งเสริมการลดการใช้พลังงาน
ตารางแสดงสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าโรงงานนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5
* เฉพาะเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน
หมายเหตุ: ข้อมูลดังกล่าวเฉพาะพื้นที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 เท่านั้น
ในปีพ.ศ. 2567 บริษัทฯได้กำหนดเป้าหมายและแผนการอนุรักษ์พลังงาน จำนวนร้อยละ 11.13 จากปริมาณการใช้พลังงานเดิม ในการดำเนินงานลดการใช้พลังงานของปีพ.ศ. 2567 บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายการลดการใช้พลังงานเป็นที่เรียบร้อย โดยสามารถลดการใช้พลังงานได้ จำนวนร้อยละ 11.13 ผลประหยัดดังกล่าวมาจากโครงการติดตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ สำหรับโครงการลดการใช้พลังงานในรอบปีพ.ศ. 2567 มีรายละเอียดดังหัวข้อโครงการส่งเสริมการลดการใช้พลังงาน
โครงการส่งเสริมการลดการใช้พลังงาน
1.โครงการเครื่องจักรผลิตไลน์การผลิต BOPP ที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5
เครื่องจักรใหม่สายการผลิต BOPP ที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 โดยเครื่องจักรสามารถผลิตฟิล์มพลาสติกต่อชั่วโมงได้มากกว่า ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ถึงร้อยละ 60 และมีความเร็วสูงสุดได้ถึง 625 เมตรต่อนาที โดยผลผลิตทั้งหมดเท่ากับ 46,505.60 ตันต่อปี และปีพ.ศ. 2567 สามารถลดการใช้พลังงานได้เท่ากับ 30.22 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ซึ่งช่วยลดค่าไฟฟ้าไปได้ถึง 116.9 ล้านบาท และยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 15,111.30 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
2. โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด5เมกะวัตต์
บริษัทฯ ติดตั้งโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังและปิ่นทอง 5 ขนาด 5 เมกะวัตต์ ขนาดกำลังผลิตรวม 5.26 เมกะวัตต์ โดยพบว่าปีพ.ศ. 2567 โครงการดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าทดแทนการใช้ไฟฟ้าจากสายส่งได้จำนวน 6.98 ล้านกิโลวัตต์ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 26.18 ล้านบาท คิดเป็นการลดก๊าซเรือนกระจกจากโครงการได้จำนวน 3,490.21 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
3. โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดลอยน้ำขนาด 1 เมกะวัตต์
บริษัทฯ ดำเนินการติดตั้งโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดลอยน้ำขนาด 1 เมกะวัตต์ ณ นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 คาดการณ์ในช่วงเวลาดำเนินการตั้งแต่มกราคมถึงธันวาคม พ.ศ. 2568 สามารถผลิตไฟฟ้าทดแทนการใช้ไฟฟ้าจากสายส่งได้จำนวน 1.38 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 3.75 ล้านบาท คิดเป็นการลดก๊าซเรือนกระจกจากโครงการได้จำนวน 499.90 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
4. โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า
บริษัทฯ ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องใช้และอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศ การเปลี่ยนหลอดไฟฟ้า บริษัทมีการพิจารณาการเลือกการใช้ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานและปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ
ในปีพ.ศ. 2567 บริษัทฯ เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟฟ้าประเภท LED ภายในพื้นที่โรงงานแหลมฉบัง จำนวน 345 หลอด สามารถช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงจำนวน 33,395.31 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งช่วยลดค่าไฟฟ้าไปได้ถึง 143,338.96 บาท และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 16.69 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
5. แนวคิดในการเลือกใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
บริษัทฯ มีการใช้พลังงานไฟฟ้าในกระบวนการผลิตฟิล์มพลาสติกเป็นจำนวนมาก ในการใช้ไฟฟ้าที่พื้นที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังและโรงงานนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 บริษัทฯ มีการซื้อไฟฟ้าจากทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและจากหน่วยงานเอกชน ทั้งนี้ ค่าการแปลงหน่วยไฟฟ้าเป็นปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ หรือค่าสัมประสิทธิ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ของแหล่งไฟฟ้าทั้งสองแหล่งมีอัตราที่แตกต่างกัน
บริษัทฯ มีแนวคิดในการเลือกซื้อไฟฟ้าจากผู้ขายที่เป็นผู้ผลิตคาร์บอนฟรุตพริ้นต่ำ หรือ low-carbon-footprint suppliers ก่อน มีการปล่อยก๊าซเรือกกระจกต่ำกว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนแนวคิดการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือเลือกซื้อไฟฟ้าจากผู้ขายที่ได้รับการรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates : RECs) ที่ได้รับการรับรองสิทธิ์ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน หรือเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยมี The International REC Standard (I-REC) ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นหน่วยงานรับรอง มาใช้แทนพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากชีวมวล อาทิ ถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ และน้ำมันดิบ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของบริษัทฯ และของประเทศ หรือ Nationally Determined Contribution ที่มุ่งเป้าให้ประเทศลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 30-40 จากกรณีปกติ ภายในปีพ.ศ. 2573
ภาพแสดงการใช้พลังงานต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ ในรอบปีพ.ศ. 2567